หนังเกาหลี Move to Heaven : ร่องรอยจากคนตายที่ถูกทิ้งเอาไว้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับบริษัทรับจ้างทำความสะอาดที่เกิดเหตุที่หน้าที่ไม่ได้มีแค่ทำความสะอาด แต่ยังทำหน้าที่บอกความในใจครั้งสุดท้ายของผู้ตายแก่คนที่ผู้ตายรักอีกด้วย เรื่องนี้มีทั้งหมด 10 ตอน ตอนละประมาณ 45-60 นาที เขียนบทโดย ยุนจีรยอน เจ้าของผลงานซีรีส์ Boy Over Flowers และกำกับโดย คิมซองโฮ ที่ผันตัวจากสายภาพยนตร์มากำกับซีรีส์เป็นครั้งแรก แค่เห็นชื่อนักเขียนและผู้กำกับก็น่าติดตามมากๆแล้วใช่ไหมล่ะคะ
พล็อตเรื่องแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร Move To Heaven เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 20 ปี ชื่อ “ฮันกือรู (รับบทโดย ทังจุนซัง) ที่ป่วยเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งมีปัญหาในการเข้าสังคม เขาอาศัยอยู่กับพ่อ “ฮันจองอู” (แสดงโดย จีจินฮี) สองคน พ่อของเขาเป็นเจ้าของบริษัทชื่อ Move To Heaven บริษัทรับจ้างทำความสะอาดที่เกิดเหตุของผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย ระหว่างทำความสะอาดห้องพัก พ่อและกือรูจะเก็บข้าวของของผู้ตายไว้ในกล่องสีเหลืองบนกล่องจะเขียนชื่อผู้ตายพร้อมข้อความขอให้ไปสู่สุคติ เพื่อส่งมอบเรื่องราวต่างๆที่ยังค้างคาใจของผู้ตายให้ครอบครัวหรือคนที่พวกเขารักได้รับรู้ หลังจากที่พ่อเสียชีวิต พ่อได้ฝากฝังกือรูไว้กับอา โจซังกู (แสดงโดย อีเจฮุน) ที่พึ่งออกจากคุกมาหมาดๆเลยก็ว่าได้ อุปนิสัยก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ทั้งสองต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ผ่านข้อตกลงตามพินัยกรรมของพ่อที่ต้องทดลองอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 3 เดือน ในระยะเวลานี้ทั้งคู่ต้องปรับตัวเข้าหากัน ช่วยเหลือกัน ร่วมกันทำงานในบริษัทให้ลุล่วง เป็นเป็นบทพิสูจน์ว่าซังกูจะเป็นผู้ปกครองให้กับฮันกือรูได้หรือไม่
การเล่าเรื่องนี้จะเป็นตอนๆ จบไปเป็นเคสๆ มีเหตุการณ์หลากหลายทั้งตายโดยธรรมชาติ โรคภัย อุบัติเหตุ หรือแม้แต่การการุณยฆาต ดำเนินเรื่องกระชับฉับไว สมูท และไม่น่าเบื่อเลย เรื่องนี้จะถือเป็นการตีแผ่อาชีพ “รับเก็บกวาดและจัดเก็บข้าวของของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว” เลยก็ว่าได้ให้มีความเข้าใจลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังตีแผ่ความคิดที่ว่า “เวลาสำคัญและมีค่าแค่ไหน” เพราะทุกการจากไปคนตายมักจะมีบางสิ่งที่อยากพูดอยู่เสมอ แต่สุดท้ายเขากลับไม่สามารถพูดมันได้อีกต่อไปแล้ว
ความน่าสนใจของเรื่องนี้นอกจากจะเล่าเรื่องราวแต่ละตอนอย่างสั้น ยังแฝงด้วยประเด็นสังคมและแง่คิดต่างๆถูกสอดแทรกเข้ามาอย่างแนบเนียน แต่ถึงกระนั้นกลับตลบอบอวลไปด้วยความรักความอบอุ่น เรียกว่าเป็นความฉลาดของคนเขียนบทเลยก็ว่าได้ และถึงซีรีส์เรื่องนี้จะมีแค่ 10 ตอน แต่ก็อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นบท การวางโครงเรื่อง ฝีมือการแสดงของนักแสดงที่ตีบทแตก แสดงออกมาได้อย่างลึกซึ้งและมีมิติมากๆ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การดูแน่นอน
เอาจริงๆคือเริ่มดูเพราะว่านักแสดงนำของเรื่องเลยคือทังจุนซัง ที่เคยฝากฝีมือการแสดงไว้ในบทสหายทหารน้องเล็กจาก Crash Landing on You แต่พอได้มาดู ตั้งแต่ Episode แรกคือประทับใจมากทั้งตัวบท การเล่าเรื่อง การดำเนินเรื่อง โทนภาพ แสง สี สถานที่ต่างๆล้วนสร้างความประทับใจให้เหล่าคนดู แล้วบทของเรื่องนี้คือมีมิติและแปลกใหม่มาก เป็นอาชีพที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพนี้มากขึ้น แต่การทำความสะอาดที่เกิดเหตุของผู้ตายของบริษัท Move to Heaven ไม่ใช่แค่ทำความสะอาดแล้วจบไป แต่ฮันกือรูยังพยายามอ่านที่เกิดเหตุจากสิ่งของๆผู้ตายเพื่อเข้าใจสิ่งที่ผู้ตายอยากสื่อเป็นครั้งสุดท้ายอีกด้วย ดูแล้วฟีลกู้ด รู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างแน่นอน พร้อมย้อนมองถึงคนรอบตัว และอยากที่จะให้ความสำคัญและคุณค่ากับเวลาให้มากๆ เพราะเมื่อผ่านไปแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับมาได้ อีกทั้งเรายังได้เห็นความสัมพันธ์ของอาหลานที่สัมผัสได้ถึงความรัก ความอบอุ่น และความห่วงใยที่มีให้กัน เป็นอะไรที่น่ารักมากๆเลย